Puritan's Pride Probiotic 10-20 billion with vitamin D/ 120 Capsules

ทานเพียงวันละ 1 เม็ด โปรไบโอติก จุลินทรีย์สุขภาพ 10 สายพันธุ์ 20 พันล้านตัว เสริมประสิทธิภาพระบบการย่อยและการดูดซึมของลำไส้ + วิตามินดี เสริมภูมิต้านทาน

ราคา: 950 บาท

ใน 1 เม็ดมีจุลินทรีย์ 10 สายพันธุ์ ที่มีชีวิตกว่า 20 พันล้านตัว เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องระบบการย่อยและการดูดซึม ช่วยเสริมระบบการย่อยและการดูดซึมในลำไส้ รวมทั้งช่วยแก้ปัญหาการขับถ่ายลำบาก โดยผลิตภัณฑ์นี้จะมีความเข้มข้นของจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์สูงและเข้มข้น สามารถช่วยเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์สำหรับร่างกายได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเสริมวิตามิน D 1,000 IU (25 mcg) ต่อเม็ด ช่วยเสริมภูมิต้านทานอีกด้วย
 
มีการวิจัยใหม่ๆ ในต่างประเทศพบว่า "วิตามินดี"  เป็นฮอร์โมนตัวหนึ่งที่สำคัญมากต่อการทำงานหลายๆ ระบบในร่างกาย เช่น ระบบการนอนหลับ ระบบการสังเคราะห์สารสื่อประสาท ระบบการขับถ่ายของเสีย การสังเคราะห์ฮอร์โมน เกี่ยวข้องกับภาวะซึมเศร้า  วิตามินดีกับการนอนไม่หลับ วิตามินดีกับโรคภูมิต้านทานตกในรูปแบบต่างๆ เช่น โรคภูมิแพ้ โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE)

วิธีรับประทาน: วันละ 1 เม็ด ก่อนหรือพร้อมอาหาร

Code: #072135

Puritan's Pride Probiotic 10-20 billion with vitamin D/ 120 Capsules

-New! One capsule-per-day formula provides the same 120 servings as before

-Now includes Vitamin D to support immune function**

-20 billion live Probiotic cultures at time of manufacture and 10 Probiotic strains in one convenient capsule

-Contributes friendly probiotics to the digestive and immune systems**

-Contains a two-month supply of easy-to-swallow capsules

Puritan’s Pride® Probiotic 10 provides 10 unique probiotic strains in just one, easy-to-take capsule per day. Our proprietary probiotic blend delivers 20 billion live culture Colony Forming Units (CFU) per capsule, so you can be sure you are providing your digestive system with the friendly probiotics it needs.** Plus, each serving delivers 25 mcg (1,000 IU) of vitamin D for optimal immune support.** When continuously stored as directed in the original packaging, quality and CFU are guaranteed through expiration. Store in a cool, dry place away from direct sunlight.

Supplement Facts

Serving Size 1 Capsule

Amount Per Serving    % Daily Value

-Vitamin D3 (as Cholecalciferol) 25 mcg (1,000 IU) 125%

Proprietary Probiotic Blend    220 mg ***

Which contains 20 Billion Live Culture CFU**    

-Lactobacillus plantarum 6595,    

-Lactobacillus paracasei 13434,    

-Lactobacillus rhamnosus 6594,    

-Bifidobacterium lactis SD-5859,    

-Lactobacillus acidophilus La-14,    

-Lactobacillus casei SD-5842,    

-Bifidobacterium bifidum SD-6576,    

-Lactobacillus brevis Lbr-35,    

-Lactobacillus delbrueckii subsp. bulgaricus Lb-87,    

-Lactobacillus salivarius SD-5851    

***Daily Value not established.

Directions: For adults, take one (1) capsule daily, with or without a meal.

Other Ingredients: Vegetable Cellulose. Contains <2% of: Silica, Vegetable Magnesium Stearate.

**20 billion active cultures per serving guaranteed at time of manufacture

WARNING: If you are pregnant, nursing, taking any medications or have any medical condition, consult your doctor before use. Discontinue use and consult your doctor if any adverse reactions occur. Keep out of reach of children. Do not use if seal under cap is broken or missing. Store in a cool, dry place away from direct sunlight.

Q: Should I take probiotics while on antibiotics?

Antibiotics may deplete or alter the composition of microorganisms naturally residing in the gut.5 Probiotics provide friendly bacteria for the digestive system.** Puritan’s Pride probiotic products are not intended to serve as a replacement for antibiotic medications, nor should you discontinue taking prescribed medications while supplementing with probiotics.

Q: Can probiotics help with gas and bloating?

Just like eating one type of food is not going to cover all of your nutritional needs, one strain of probiotic is unlikely to cover all of your digestive concerns. The benefits of a probiotic are dependent on the amount and type of strains included in the formula. Certain probiotic strains, like those found in Puritan’s Pride® Probiotic Gummies provide relief from occasional constipation, gas and bloating when taken daily.**

Q: What is the difference between probiotics and prebiotics?

Both probiotics and prebiotics can support your gut microbiota but there are important differences between the two.** Probiotics are live microorganisms that are intended to introduce new, friendly bacteria to your gut. Prebiotics can be thought of as food for the microorganisms already residing within your gut. Unlike probiotics, prebiotics are not alive. They are food substances, like fibers, that we cannot digest ourselves but are selectively utilized by the beneficial microorganisms already residing in our gut.

Q: If I eat fermented foods, I will not benefit from a probiotic supplement?

Fermented foods such as yogurt, kefir, sauerkraut, miso and kimchi are produced using microorganisms. However, these microorganisms are chosen for their role in food production, not necessarily for their health benefits and typically only use a single type of probiotic. After cooking, processing, and storage, not all fermented foods will contain live, viable microorganisms by the time you are ready to enjoy them. A diet that includes fermented foods can be supplemented with probiotics to improve the quality, quantity and variety of strains consumed to provide optimal health benefits.**

Q: Should Probiotics only be taken for short periods?

For continued benefits, probiotic supplements should be taken on a routine, ongoing basis. The changes that occur to gut microbiota with supplementation are temporary. If supplementation is discontinued, a person’s microbiota will typically return to its previous status within one to three weeks.1

Q: Should I store all probiotics in the refrigerator?

Since probiotics are live microorganisms, they need to be stored properly with care. Proper storage conditions will vary depending on the strains of probiotics in the product. Probiotics should not be stored in the refrigerator unless instructed to do so on the packaging by the manufacturer.

At Puritan’s Pride®, we take special care to choose the right packaging to suit the particular needs of the strains in our products. Strains that are sensitive to humidity are packaged in advanced bottles with desiccant technology to control moisture. Other strains are happy in our opaque white bottles that block out light. Things you can do at home to ensure the potency of your probiotics are to make sure the bottle is tightly sealed and avoid storing in areas such as the bathroom where showers can generate excessive humidity.

มาทำความรู้จักกับโปรไบโอติก (Probiotic) 

โปรไบโอติก (Probiotic) มีความสำคัญกับสุขภาพตั้งแต่แรกเกิดจนถึงสูงอายุ เพราะว่า โปรไบโอติก (Probiotic) เป็นเชื้อจุลินทรีย์แบคทีเรียที่ดีมีประโยชน์ อาศัยอยู่ในลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ของร่างกาย ตั้งแต่เกิดเป็นทารก ทำหน้าที่ช่วยย่อยอาหารและผลิตสารอาหารที่ดีมีประโยชน์ ได้แก่ กรดอะมิโน กรดแลคติก พลังงาน วิตามินเค วิตามินบี ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายดังนี้

1. กรดแลคติกที่แบคทีเรียผลิตออกมา จะทำให้สภาวะภายในลำไส้ มีความเป็นกรดมากพอที่จะยับยั้งการเจริญของแบคทีเรียก่อโรค

2. ทำให้ระบบขับถ่ายดี ไม่เกิดการหมักหมมของของเสียในร่างกาย เป็นการลดอัตราเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งตับ

3. วิตามินบีที่ได้ จะทำให้เซลล์ในระบบภูมิต้านทานทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และยังทำให้มีการผลิตเม็ดเลือดแดงดีขึ้นด้วย

4. ช่วยยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็ง และกำจัดสารก่อมะเร็งบางชนิด

5. แลคติกแอซิดแบคทีเรีย ยังช่วยลดระดับน้ำตาลและคอเลสเตอรอลในเลือดด้วย

6. นอกจากนี้ ยังผลิตเอนไซม์แลคเตส ซึ่งช่วยย่อยน้ำตาลในนม ทำให้เราไม่มีอาการท้องอืดจากการดื่มนม และช่วยให้การดูดซึมแคลเซียมดีขึ้น

จุลินทรีย์ ในกลุ่มนี้ทำให้เกิดสมดุลของจุลินทรีย์ในทางเดินอาหาร โดยการเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ให้มากขึ้นและลดปริมาณจุลินทรีย์ ที่เป็นโทษ จุลินทรีย์โปรไบโอติก ได้แก่ เชื้อจุลินทรีย์ในกลุ่มแบคทีเรียแลคติก โดยเฉพาะเชื้อในสกุล Lactobacillus และ Bifidobacterium ซึ่ง probiotic เหล่านี้จะมีบทบาทที่สำคัญหลายอย่าง ได้แก่ ยับยั้งการเพิ่มจำนวนของจุลินทรีย์ที่เป็นโทษ โดยการแย่งที่เกาะหรือแย่งอาหารหรือทำให้สภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม เป็นการช่วยลดสารพิษที่เชื้อจุลินทรีย์เหล่านั้นผลิตขึ้น ผลิตสารต้านการเจริญเติบโตและตั้งถิ่นฐานของจุลินทรีย์ที่เป็นโทษ ผลิตเอนไซม์ที่มีผลในการทำลายสารพิษในอาหาร หรือที่เชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นโทษผลิตขึ้น กระตุ้นในเกิดภูมิต้านทานต่อโรคติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร ช่วยยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็งและกำจัดสารก่อมะเร็งบางชนิด ช่วยลดระดับน้ำตาลและคอเลสเตอรอลในเลือดและผลิตเอนไซม์ช่วยย่อยอาหารเพิ่ม เติมให้ระบบทางเดินอาหารจึงมีการนำจุลินทรีย์กลุ่มนี้มาผลิตอาหารหลายชนิด โดยนำมาใช้ร่วมกับใยอาหาร (fiber) บางชนิด ซึ่งก็คือ พรีไบโอติก (prebiotic) โดยทำออกมาในรูป ผลิตภัณฑ์นมหมัก เช่น โยเกิร์ต นมเปรี้ยว และมีการผลิตในรูปของแคปซูลและเม็ดออกมาจำหน่ายตามท้องตลาด โดยมุ่งเน้นในเรื่องการส่งเสริมสุขภาพ ตลอดจนการป้องกันและรักษาโรค

คุณสมบัติของ Probiotics
1. ทนทานต่อสภาพที่มีกรดสูงและไม่มีการรวมตัวกับเกลือน้ำดี เนื่องจากการไฮโดรไลซ์ เกลือน้ำดีจะทำให้เกิดลักษณะที่เป็นพิษในลำไส้
2. มีความสามารถในการยึดเกาะเยื่อบุในระบบทางเดินอาหาร
3. มีความสามารถในการอยู่รอดในระบบทางเดินอาหาร
4. สามารถผลิตสารยับยั้งจุลินทรีย์และควบคุมจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรคได้
5. เป็นจุลินทรีย์ที่มีลักษณะทางพันธุกรรมคงที่ ไม่มีการกลายพันธุ์และไม่ก่อมะเร็ง
6. ผลิตเอนไซม์ β-galactosidase เพื่อย่อยน้ำตาลแลกโทสในปริมาณสูง
7. สามารถหมัก Fructo oligosaccharide ซึ่งอาจใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพ

ประโยชน์ต่อสุขภาพของโปรไบโอติก...

โปรไบโอติกเป็นจุลินทรีย์ที่ทำหน้าที่ในการช่วยปรับสมดุลของสภาพแวดล้อมในระบบ ลำไส้เนื่องจากในระบบทางเดินอาหารของมนุษย์มีจุลินทรีย์เป็นจำนวนมากมายหล่ย ชนิดทั้งที่เป็นประโยชน์และโทษ ดังนั้นถ้าหากจุลินทรีย์สุขภาพมีจำนวนมากขึ้นก็สามารถเกาะติดผนังลำไส้ และหลั่งสารพิษที่มีผลทำให้เยื่อบุลำไส้อักแสบได้ จากคุณสมบัติดังกล่าวจึงได้มีการนำโปรไบโอติกมาใช้ในการรักษาและป้องกันโรค อุจจาระร่วงที่เกิดจากการได้รับยาปฏิชีวนะซึ่งมีผลทำให้ประชากรจุลินทรีย์ สุขภาพในลำไส้ลดลง

1.การลดภาวะไม่ทนต่อแลกโตส (Lactose intolerance)
เป็นผลต่อสุขภาพที่สำคัญของโปรไบโอติก พบว่าประชากรโลกส่วนใหญ่มีปริมาณของเอนไซม์แลกเตส (Lactase) ต่ำ จึงทำให้แลกโตส (Lactose) ไม่สามารถถูกย่อยในทางเดินอาหาร ดังนั้นหลานคนที่ดื่มนมแล้ว เกิดอาการท้องอืด เฟ้อ ท้องเดิน ปวดท้อง โปรไบโอติกในอาหารประเภทนมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ตสามารถช่วยบรรเทาอาการนั้นได้ เนื่องจากโปรไบโอติกได้ช่วยย่อยแลกโตสไปแล้วในระหว่างการหมัก (Fermentation) จึงทำให้มีแลกโตสเหลือน้อยกว่าหรือไม่มีเลย

2.การลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
หลักฐานการทดลองเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไม่สรุปแน่ชัด แต่มีผู้เสนอกลไกที่อาจเป็นไปได้ คือ อาจเนื่องจากคอเลสเตอรอลเป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์กรดน้ำดี ดังนั้นถ้าเราเพิ่มการขับออกของน้ำดีก็จะทำให้มีการกระตุ้นให้มีการนำเอาคอ เลสเตอรอลมาใช้ในการสังเคราะห์น้ำดีเพิ้มขึ้น โดยในจุลินทรีย์จะมีเอนไซฒที่สามารถจับกรดน้ำดี และทำให้กรดน้ำดีถูกขับออกทางอุจจาระเพิ่มขึ้นจึงส่งผลให้สามารถลดระดับคอเล สเตอรอลในเลือดได้ นอกจากนี้อาจเนื่องจากการที่จุลินทรีย์สามารถนำเอาคอเลสเตอรอลไปใช้ได้โดย ตรง ทำให้ปริมาณคอเลสเตอรอลลดลง

3.การบรรเทาอาการท้องเดิน
เป็นบทบาทหลักของโปรไบโอติก คือ ช่วยลดความรุนแรงของอาการท้องเดิน โดยลดระยะเวลาของโรคและเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน กลไกที่เป็นไปได้ คือ การทำให้ลำไส้ใหญ่มีความเป็นกรด จากการผลิตกรดแลกติก ( lactic acid) และ กรดอะซิติก (acetic acid) ซึ่งมีผลยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคได้ อีกกลไกหนึ่ง คือ ทำให้การตอบสนองต่อระบบภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น

4.การป้องกันมะเร็ง
ข้อมูลทางระบาดวิทยาพบว่าอุบัติการณ์ของมะเร็งลำไส้ใหญ่มีความสัมพันธ์กับ การกินอาหารไขมันสูง ซึ่งไขมันในอาหารจะกระตุ้นให้มีการหลั่งกรดน้ำดีในลำไส้ใหญ่มากขึ้น ร่วมกับกรดน้ำดีอีกส่วนหนึ่งที่เกิดจากแบคทีเรียเอง ซึ่งทำให้มีส่วนส่งเสริมให้เกิดมะเร็งขึ้นได้ นอกจากนี้เอนไซม์ของแบคทีเรียบางชนิดก็จะเปลี่ยนสารบางอย่างในลำไส้ใหญ่ไป เป็นสารก่อมะเร็ง ดังนั้นกลไกในการต้านมะเร็งของโปรไบโอติก ได้แก่ กดการทำงานของสารก่อมะเร็ง ควบคุมหรือเหนี่ยวรั้งการเจริญของแบคทีเรียที่มีเอนไซม์ในการทำให้เกิดสาร ก่อมะเร็ง มีผลต่อการเคลื่อนไหวหรือการบีบตัวของลำไส้ทำให้กำจัดสารก่อกลายพันธุ์ออก จากร่างกายได้เร็วขึ้น และกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร

จากที่ได้กล่าวมา ทั้งหมดจะเห็นได้ว่า โปรไบโอติกมีความสำคัญกับบุคคลทุกวัย เพราะช่วยให้มีสุขภาพที่ดี แข็งแรงและช่วยป้องกันโรคร้ายต่างๆ